บาเยิร์น มิวนิค ที่ใครๆ ก็ทราบดีว่าพวกเขาเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการฟุตบอลเยอรมัน และพวกเขาก็ผูกขาดกับการเป็นแชมป์บุนเดสลีก้ามา 6 สมัยติดต่อกันแล้ว และไม่มีคู่ต่อกรไหนเข้ามาคุกขามพวกเขาได้เลย หลังจากที่หมดยุคของเจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันที่หนีไปคุมทีมลิเวอร์พูลในตอนนี้ ซึ่งในระยะหลังมานี้ เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่การคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากพวกเขาเก็บคะแนนทิ้งห่างจนหายห่วงกับแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศเยอรมันมาได้โดยตลอด แต่เป้าหมายของพวกเขากลับกลายเป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเสียแล้วในแต่ละฤดูกาล ซึ่ง 5 ปีหลังสุดพวกเขาต้องตกรอบรองชนะเลิศในฟุตบอลรายการใหญ่ของยุโรปมา 4 ครั้งติดต่อกันแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าขนาดทีม และตัวหมุนเวียนอาจจะไม่ดีพอก็เป็นได้ ทำให้ฤดูกาลนี้พกวเขาตั้งเป้าหมายอีกครั้งว่าจะไปให้ไกลว่าเดิม ด้วยขุมกำลังที่ใหญ่ขึ้นด้วย
ขุมกำลังของบาเยิร์น มิวนิคในฤดูกาลนี้ก็จะเหมือนกับทีมยักษ์ใหญ่ของลีกอื่นๆ อย่างปารีส แซงต์ แชร์กแมง หรืออย่างยูเวนตุส ที่สามารถจะจัดทีมดีๆ ได้ถึง 2 ทีมเลยทีเดียว แต่สิ่งที่จำเป็นที่สุดของพวกเขาคือการที่จะต้องมีมานูเอล นอยเออร์ นายประตูมือ 1 ของทีมเฝ้าเสาในแต่ละนัด เนื่องจากฤดูกาลที่แล้วที่เขาเจ็บบ่อย จนชวดเล่นในรอบรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้สเวน อูลไรซ์ นายประตูมือ 2 ต้องลงสนามแทน และสุดท้ายค้วยความแตกต่างของนายประตู ทำให้บาเยิร์น มิวนิคต้องอกหักตกรอบในที่สุด เพราะทางเรอัล มาดริดมีเคย์ลอร์ นาบาส นายประตูจอมหนึบทีมชาติคอสตาริก้า ที่สามารถปัดป้องลูกยิงของบาเยิร์น มิวนิคได้โดยตลอด แต่ทางอูลไรซ์ดันทำพลาดจนทำให้ทีมเสียประตู
ฤดูกาลนี้นิโก้ โควัช กุนซือคนใหม่จะมีนักเตะที่หมุนเวียนได้มากขึ้น แต่จะมีนักเตะ 2 คนที่ทีมจะขาดไม่ได้เลย นอกจากมานูเอล นอยเออร์แล้วก็คือโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้นั่นเอง ส่วนตำแหน่งอื่นๆ นั้นบาเยิร์น มิวนิคมีตัวตายตัวแทนที่ดีเยี่ยมหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นกองหลัง หรือกองกลางก็ตาม โดยเฉพาะในตำแหน่งกองกลาง และตัวริมเส้นนั้นถือว่าเป็นจุดแข็งของทีม “เสือใต้” เลยก็ว่าได้ เมื่อพวกเขามีนักเตะคุณภาพคับแก้วอยู่เต็มทีม ทั้งฮาเมส โรดริเกซ อาร์เยน ร็อบเบน ฟร็องค์ ริเบรี่ ติอาโก้ อัลกันตาร่า โธมัส มุลเลอร์ คิงส์ลี่ย์ โกม็อง และนักเตะใหม่อย่างเลออน กอเร็ตซ์ก้าด้วย